ภาษาอังกฤษพิชิตได้ด้วยการฟังเพลง

สมัยนี้ใคร ๆ ก็อยากสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างฉะฉาน แต่คนส่วนใหญ่ชอบมีอาการเขินอายเวลาที่ต้องสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ หรือหนักไปกว่านั้นคือไม่เข้าใจในคำศัพท์ภาษาอังกฤษเลยแม่แต่คำเดียว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณคุณเคยกับภากลางของโลกได้อย่างรวดเร็ว แหล่งความรู้ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าให้ฟังเพลง แล้วดูเนื้อไปด้วย พยายามแกะเนื้อให้ออก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น คนที่ไม่มีพื้นฐานด้านภาษาเลยไม่มีทางทำได้แน่นอน ดังนั้นเราควรเริ่มจากส่วนที่ง่ายที่สุดก่อน  นั่นคือ การเลือกเพลงที่เพราะ และมีคำศัพท์เดี่ยวง่าย ๆ อยู่ในเนื้อเพลงเยอะพอสมควร ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มจากเพลงอะไร เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเพลงเหล่านี้

Christina Perri – A Thousand Years เพลงนี้หลายคนน่าจะเคยคุ้นหูกันมาบ้าง เพราะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ทไวไลท์ ในส่วนของเนื้อหาเพลงนี้เป็นเรื่องราวความรักที่โรแมนติก ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเลือกมาฝึกสกิลภาษา เริ่มจากการเปิดเนื้อเพลง และดูความหมายของแต่ละคำศัพท์ ให้พอผ่านตาซักเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มฟังเพลงพร้อมกับอ่านเนื้อร้องไปด้วย เนื่องจากเพลงนี้มีคำศัพท์พื้นฐานเยอะมาก และจังหวะของคำก็ชัดเจนทำให้คุณสามารถจับสำเนียงและการออกเสียงได้ง่าย ๆ เลยล่ะ

Charlie Puth – One Call Away หลังจากที่คุณเริ่มจับใจความได้บ้างแล้ว เพลงนี้จะช่วยให้คุณรู้จักคำศัพท์เพิ่มมากขึ้น และยังมีประโยคภาษาอังกฤษที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเยอะมาก ซึ่งถ้าคุณแยกออกมาทีละท่อน ก็จะสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งเพลงนี้ก็จะพูดถึงความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นมุมมองของชายหนุ่มที่พร้อมจะทำเพื่อคนที่เขารัก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่น่ารัก และเหมาะกับการใช้ฝึกทักษะทางด้านการฟังมากทีเดียว หรือใครที่ไม่ชอบเพลงแนวนี้ก็สามารถเป็นแนวอื่นที่มีจังหวะใกล้เคียงกัน จังหวะที่พูดถึงในที่นี้นั้นหมายถึง จังหวะของการใส่คำศัพท์ลงในแต่ละประโยค คนที่ทักษะทางด้านการฟังยังไม่แข็งแรง ไม่ควรเลือกเพลงที่มีการรัวคำศัพท์เยอะมากจนเกินไป เพราะนอกจากจะฟังไม่รู้เรื่องแล้ว ยังทำให้เราจับใจความอะไรไม่ได้อีกด้วย

และบทเพลงสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำในวันนี้นั่นก็คือ Ed Sheeran – Photograph เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ เพราะทำนองเพลงเพราะเสนาะหู เนื้อหาก็กินใจ แถมร้องตามได้ง่ายอีกด้วย เมื่อคุณเริ่มคุ้นชินกับคำศัพท์มากขึ้นแล้ว ก็ค่อยเลื่อนไปฟังเพลงที่มีระดับความเร็ว และความถี่ในการใส่คำมากขึ้น หรืออาจจะเปลี่ยนไปดูภาพยนตร์แบบเสียงซาวน์แทร็ก ก็ช่วยได้เยอะมากทีเดียว

เชื่อว่าหลายคนคงจะพอจับทางได้บ้างแล้ว ว่าควรจะเริ่มฝึกจากตรงไหน ขอแค่มีความพยายามและความเสมอต้นเสมอปลายที่จะฝึกฝน เลือกเพลงได้เหมาะสมกับทักษะของตัวเอง ไม่นานคุณก็จะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน