เหมือนได้เจอส่วนที่ขาดหาย และรอคอยมาเนิ่นนาน “A thousand years”

A thousand years คืออีกหนึ่งบทเพลงที่นิยมเปิดกันในงานแต่งมากที่สุดเพลงหนึ่ง แม้ “A thousand years” ในบริบทของคนปกติอาจหมายถึงการเปรียบเปรยว่ารอคอยใครอีกคนหนึ่งมานานแสนนานนับพันปี จนกระทั่งได้เจอกับคู่รักคนปัจจุบัน แต่ถ้าเป็น A thousand years ในบริบทของ Edward Cullen แล้ว เขาคงหมายความเช่นนั้นอย่างสัตย์จริง จากใจแวมไพร์หนุ่มผู้ไม่เคยอ่านใจ Isabella “Bella” Marie Swan ได้เลยสักครั้ง แต่เธอผู้นั้นคือคนที่เขาเฝ้ารอมานานนับพันปี ในความรู้สึกของผู้ตื่นแล้วตายอย่างแท้จริง

ความรักที่กล้าจะรัก

อีกก้าวหนึ่งที่ฉันเข้าไปใกล้ และระยะเวลาที่ร่นถอยเข้ามาจนสิ้นสุด ตลอดการรอคอยเป็นพันปี แทนความรู้สึกของเอ็ดเวิร์ดได้อย่างเฉียบคม เขารอที่จะรัก และเมื่อถึงเวลา เขาไม่เคยลังเลที่จะรัก แม้จะมีความกลัว ในขณะเดียวกัน เขาเองก็อยากให้เบลล่าสบายใจที่จะรัก เพลงรักที่มีความหมายลึกซึ้งคมคายที่อยู่ในคราบของเนื้อเพลงอันสละสลวยเหมือนบทกลอนและท่วงทำนองหวานซึ้งนี้เองที่ประกอบกันเป็น A thousand years ให้เราได้ฟังกัน เมื่อประกบเข้ากับเนื้อเรื่องที่ผู้แต่งพยายามบอกเล่าให้เราฟังแล้ว การที่เพลงนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องราวความรักครั้งนี้จึงยิ่งดูสมบูรณ์ขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อรักเธอมาพันปีแล้ว ก็ยินดีจะรักอีกหลาย ๆ พันปี ความรู้สึกรักลึกซึ้งเช่นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่เพราะความฉาบฉวย หรือชั่วครู่เพียงเท่านั้น แต่กลั่นมาจากหยาดหยดของหัวใจ ซึ่ง A thousand years แสดงให้เราเห็นผ่านบทเพลงได้อย่างชัดเจน และไร้คำถามในที่สุด ว่าทำไมเพลงนี้จึงเป็นที่นิยมเปิดในงานแต่งงานนัก งานแต่งงานที่ทรงเกียรติของบ่าวสาว ไม่ใช่งานใหญ่โต แขกเหรื่อนับร้อย แต่เป็นการประกาศตนต่อกันและกัน ว่าจะครองรักไปตลอดจนกว่าจะถึงเวลาแยกจาก ความรักเช่นนั้นเองที่ A thousand years มอบให้เรา ทำให้เรารู้สึก ทั้งคนที่เคยมีความรัก กำลังมีความรัก หรือเฝ้าฝันใฝ่ในความรักเองก็ตามแต่

เพลงประจำงานแต่ง

อีกครั้งที่เพลงประกอบภาพยนตร์ฉายแววโดดเด่นของตัวเอง จนบางคนเคยฟังแต่เพลงและไม่เคยดูภาพยนตร์ด้วยซ้ำ แต่พูดถึงในแง่ของเนื้อเพลงแล้วเรียกได้ว่า บทเพลงนี้เป็นทั้งส่วนเติมเต็มและส่วนขยายของภาพยนตร์ชุดนี้ตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างงดงาม สมบูรณ์ และไร้ที่ติ จนกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการแสดงออกทางความรัก เป็นบทเพลงแห่งคืนวิวาห์อันหวานชื่น เป็นความรักที่สอดแทรกเรียงตัวอยู่ในทุกห้วงคำที่นักร้องเปล่งเสียง และท้ายที่สุดแล้ว มันถูกจดจำในฐานะเพลงรักอันเป็นนิรันดร์ คู่กันกับภาพยนตร์แวมไพร์ผู้ไม่มีวันตาย และกลายเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกดี ๆ ที่เราจะนึกถึงเมื่อเห็นภาพของแวมไพร์หนุ่มครองรักร่วมกับหญิงสาวที่มีชีวิตเป็นอมตะตลอดกาล